Malaysia ต้นแบบการพัฒนาระบบการเงินอิสลาม
ส่วนหนึ่งของความพยายามยาวนานในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเงินอิสลามนั้นในมาเลเซียนั้นเริ่มจาก อังกู อับดุล อาซิส พ่อของเซติ อักตาร์ อาซิส ผู้ว่าการแบงก์ชาติแดนเสือเหลือง ได้ก่อตั้งสถาบันการเงินอิสลามสมัยใหม่แห่งแรกในชื่อ ทาบงฮาจิ (Tabunghaji) ในปี 1962 เพื่อช่วยจัดหาเงินทุนให้แก่ผู้ที่ต้องการเดินทางไปแสวงบุญที่เมกกะ และระดมการออมในชนบท
รัฐบาลมาเลเซียได้ตั้งธนาคารอิสลามขึ้นมาหลายแห่งตามแผนปฏิรูปเพื่อส่งเสริมการพัฒนาประเทศต้นปี 2001 รัฐบาลเสนอมาตรการจูงใจทางภาษีและมีการแก้ไข พรบ. เพื่อให้รองรับการดำเนินงานของระบบการเงินอิสลามในหลายๆด้าน และแปลงสินทรัพย์ของประเทศอย่างน้อย 1 ใน 5 เป็นเงินทุนอิสลามภายในปี 2010 และการระดมทุนแบบอิสลามกลายเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนจากตะวันออกกลาง
ย้อนกลับไปต้นทศวรรษ 1990 แดนเสือเหลืองพัฒนาพันธบัตรอิสลามหรือศุกูก (Sukuk) ขึ้นมาเป็นครั้งแรก และประสบความสำเร็จอย่างดีจนมีการออกศุกูก (Sukuk) ระดับโลกครั้งแรกในปี 2002 เพื่อระดมทุนมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน ตลาดศุกูก (Sukuk) ทั่วโลกเป็นของมาเลเซีย 2 ใน 3
นอกจากนี้ปัจจุบันมาเลเซียยังมีการบริการการเงินอิสลาม(Islamic Financial Service) มากขึ้น บัตรเครดิตอิสลาม (Islamic Credit Card) ตราสารอนุพันธ์อิสลาม (Islamic Derivatives)และการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แบบอิสลาม(Islamic investment in stock market)
ปัจจุบบันมาเลเซียได้ชื่อว่าเป็น Islamic Financial Hub ของโลก และถือว่าเป็นประเทศที่เป็นแบบอย่างหรือต้นแบบในการพัฒนาระบบการเงินอิสลาม (Islamic Financial System) ควบคู่ไปกับระบบการเงินสากล (Conventional Financial System) หรือเรียกได้ว่า Dual System ซึ่งรัฐบาลประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการเงินอิสลามเป็นอย่างมากก่อนที่จะช้าเกินไปในการเปิดประชาคมเศรษฐิกิจอาเซียน หรือ AEC ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังไปดูงานที่ประเทศมาเลเซียหลายครั้งหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการพัฒนาและปฏิรูประบบการเงินอิสลามในไทยเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างทันเวลา
วัลลอฮุอะลัม เรียบเรียงโดย Muhammad Azmii Mahamad
หมายเหตุ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่บทความด้วยการอ้างอิงถึง
http://www.การเงินอิสลาม.com หรือ http://www.islamicfinancethai.com