อิสลามเบื้องต้น
ศาสนาอิสลามเบื้องต้น
“อิสลาม” มีรากศัพท์จากภาษาอาหรับ ซึ่งแปลว่า “สันติ” ส่วน อิสลาม หมายถึง การสวามิภักดิ์ต่ออัลลอฮ์ หรือ พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ซึ่งอิสลามคือศาสนาที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้แก่อาดัมผู้เป็นบิดาแห่งมนุษยชาติหรือมนุษย์คนแรก ใช้เป็นวิถีแห่งการดำรงชีวิตที่ครอบคลุมพฤติกรรมของมนุษย์ในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่เกิดจนตาย ตั้งแต่ตื่นจนหลับ รวมถึงเรื่องส่วนตัว ครอบครัว และสังคม โดยผู้ที่ยึดมั่นในศาสนาอิสลาม เรียกว่า มุสลิม (ผู้ใฝ่หาสันติ) ส่วนสตรีมุสลิม เรียกว่า มุสลิมะฮ์
อัลลอฮ์ทรงประสงค์ให้วงศ์วานของอาดัมดำรงอยู่บนแนวทางอันเป็นธรรมะที่เที่ยงตรงและรอดพ้นจากการล่อลวงของมารให้มนุษย์เห็นผิดเป็นชอบและเบียดเบียนกัน ดังนั้นศาสนาอิสลามที่อัลลอฮ์ประทานลงมาเป็นทางแห่งการดำเนินชีวิตจึงมีเป้าหมายคุ้มครองมนุษย์ใน 5 ด้านด้วยกัน ได้แก่
1.ชีวิต
2.ทรัพย์
3.สติ
4.วงศ์ตระกูล
5.ศาสนา
และเพื่อให้คำสอนอิสลามสามารถคุ้มครองมนุษย์จากมารหรือซัยตอน ได้ผู้เป็นมุสลิมนั้นจะต้องเชื่อมั่นและปฏิบัติในหลักการของศาสนาอิสลาม ซึ่งมีอยู่ 3 หลักการใหญ่ คือ
หลักการศรัทธา เรียกว่า “รุก่นอีมาน” คือ หลักการหรือบทบัญญัติ ที่มุสลิมทุกคนต้องศรัทธา ยึดมั่น มีอยู่ 6 ประการ คือ
1.ต้องศรัทธาต่ออัลลอฮ์ (อัลลอฮ์ คือพระเจ้าเพียงองค์เดียวที่ชาวมุสลิมและมุสลิมะฮ์สักการะ)
2.ต้องศรัทธาต่อบรรดามะลาอิกะฮ์ (เทวทูต) ของอัลลอฮ์
3.ต้องศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์ของอัลลอฮ์
4.ต้องศรัทธาต่อบรรดารอซู้ล (ศาสดา) ของอัลลอฮ์
5.ต้องศรัทธาต่อวันอาคิเราะฮ์ (วันสุดท้ายของโลก)
6.ต้องศรัทธาต่อการกำหนดของอัลลอฮ์ทั้งทางดีและทางร้าย
หลักการปฏิบัติ เรียกว่า “รุก่นอิสลาม” คือหลักการหรือบทบัญญัติที่มุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติตาม โดยไม่โต้แย้ง มีอยู่ 5 ประการ คือ
1.ประกาศยืนยันว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลลอฮ์พระองค์เดียวและมูฮัมหมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์
2.ดำรงการละหมาด 5 เวลาต่อวัน
3.ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
4.การจ่ายซะกาต (ทรัพย์สินในอัตราที่ศาสนากาหนดไว้)
5.การเดินทางไปทาฮัจญ์ที่มักกะฮ์ หากมีความสามารถหรือมีความพร้อม
ท่านศาสดามุฮัมหมัด(ซ.ล.) ได้ทรงกล่าวไว้ “การศรัทธานั้น คือการที่ท่านต้องเชื่อถือต่ออัลลอฮ์ ต่อบรรดามะลาอิกะฮ์ของพระองค์ ต่อบรรดาคำภีร์ของพระองค์ ต่อบรรดารอซู้ลของพระองค์ ต่อวันอาคิเราะฮ์ และต้องเชื่อถือต่อการกาหนดของอัลลอฮ์ทั้งทางดีและทางร้าย” (บันทึกโดยมุสลิม)

หลักการจริยธรรม เรียกว่า “อัคลาค” มีหัวใจอยู่ที่คำเทศนาของนบี มุฮัมมัดที่ว่า “ท่านทั้งหลายจงทำความดีประหนึ่งท่านมองเห็นอัลลอฮ์อยู่เบื้องหน้า และแม้ท่านไม่อาจแลเห็นอัลลอฮ์แต่ท่านทั้งหลายพึงมีสติเถิดว่าอัลลอฮ์ทรงเฝ้ามองดูท่านทั้งหลายอยู่” คือการปฏิบัติตัวที่ดีทั้งทางคำพูด และการกระทา เป็นที่ยอมรับของสังคมอยู่ในหลักศีลธรรม โดยการกระทาทั้งหมดนี้ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม
บทบัญญัติในพระคัมภีร์อัลกุรอานของอิสลาม จะเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษผลกรรมที่มนุษย์ประกอบกำกับไว้ด้วย เหตุนี้อิสลามจึงเป็นศาสนาที่สมบูรณ์แบบจนเป็นระบอบแห่งการดำเนินชีวิต ซึ่งหลักสาคัญประการหนึ่งที่อิสลามได้กำหนดไว้สาหรับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ คือ ความสงบสุข ความศานติ และความมั่นคง ความสัมพันธ์ของศาสนาอิสลามกับศาสนาอื่นไม่ว่าในระดับปัจเจกบุคคล หรือระดับประเทศ คือความสัมพันธ์ในรูปของการทำความรู้จัก การเกื้อกูลกัน การเผยแผ่และทำความดี ไม่ใช่ความสัมพันธ์ในรูปของการปะทะต่อสู้ ก่อการร้าย หรือบ่อนทำลาย และระบบการเงินการธนาคารอิสลามก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมะของศาสนาอิสลามที่คุ้มครองมนุษย์จากการเบียดเบียนกันและกันในประเด็นของทรัพย์สิน